จัดฟันเด็ก อายุเท่าไหร่ ดีไหม ราคาเท่าไหร่ ฟันเด็กแบบไหนที่ควรจัด

จัดฟันเด็ก อายุเท่าไหร่ ดีไหม ราคาเท่าไหร่ ฟันเด็กแบบไหนที่ควรจัด

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่พบว่าลูกน้อยของคุณมีปัญหาสุขภาพในช่องปาก โดยเฉพาะในเรื่องของ ‘ฟัน’ เช่น ฟันซ้อน ฟันเหยิน ฟันเก ฯลฯ ทำให้เกิดความคิดว่าควรที่จะพาลูกไปจัดฟันเด็กหรือไม่ แต่การจัดฟันเด็กก็อาจจะทำให้ผู้ปกครองกังวลใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่แน่ใจว่าควรที่จะจัดฟันตอนช่วงอายุเท่าไหร่ จัดฟันหน้าเปลี่ยนหรือไม่ หลังจัดฟันจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของฟันลูกในระยะยาวหรือเปล่า รวมถึงการจัดฟันเด็ก ราคาเท่าไหร่กันแน่

บทความนี้ Smile & Co ของเราจึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดฟันเด็กมาฝากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าจะพาลูกไปจัดฟันดีไหม รวมถึงมีอะไรที่ควรรู้เกี่ยวกับการจัดฟันครั้งแรกของลูกน้อยบ้าง

จัดฟันเด็กมีอะไรที่ต้องรู้บ้าง

ในการจัดฟันเด็กพ่อ แม่ ผู้ปกครองจำเป็นที่จะต้องศึกษาเกี่ยวกับวิธีการจัดฟัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟัน เช่น ยางจัดฟัน, แบร็คเก็ต ฯลฯ ข้อควรรู้อื่นๆ อย่างการดูแลทั้งก่อน ระหว่างจัดฟัน และหลังจัดฟัน เพื่อทำให้การจัดฟันนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังต้องรู้ด้วยว่าควรที่จะทำการเลือกคลินิกจัดฟันเด็กอย่างไร จึงจะปลอดภัยสำหรับลูกน้อย ซึ่งเรื่องนี้ก็มักจะเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วย 

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะในบทความนี้เราได้รวบรวมทุกเรื่องที่ควรรู้มาให้ครบ จบ ในที่เดียว ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูพร้อมๆ กันเลย!

เด็กคนไหนต้องจัดฟันบ้าง

แล้วปัญหาฟันของเด็กๆ ในรูปแบบใดบ้างที่สามารถทำการจัดฟันได้ ลองตรวจสอบดูได้จากตัวอย่างของปัญหาในรูปแบบต่างๆ ที่เรารวบรวมมาให้ได้เลย ดังนี้

  • ฟันเกิน คือ ภาวะที่มีฟันขึ้นมาเกินปกติ ซึ่งฟันเกินอาจจะงอกขึ้นมาหรือฝังอยู่ในขากรรไกร สามารถพบได้ทั้งในฟันน้ำนมและฟันแท้ มีผลทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ฟันงอกผิดตำแหน่งหรือขวางฟันซี่อื่น เป็นต้น
  • ฟันสบ อย่างการเกิดฟันสบลึก (Deep Bite) ทำให้ฟันหน้าบนคร่อมปิดฟันหน้าล่างมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดฟันสึก เสียวฟัน หรือถ้าโตขึ้นไปแล้วไม่ได้ทำการรักษาก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายให้กับเหงือกและรากฟันหน้าได้ 
  • ฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันขึ้นผิดตำแหน่ง เป็นลักษณะของฟันที่มีการขึ้นหรือวางตัวที่ผิดปกติ เช่น เรียงตัวซ้อนกันกับฟันซี่อื่น, ฟันขึ้นบิดเบี้ยวผิดรูป เป็นต้น
  • ฟันหรือลักษณะขากรรไกรมีความผิดปกติ อาจทำให้มีปัญหาขากรรไกรค้าง หรืออ้าปากแล้วเบี้ยว ไปจนถึงมีปัญหาในการบดเคี้ยวอาหารได้

จัดฟันเด็กจำเป็นไหม

การจัดฟันเด็กนั้นจำเป็นแค่ไหน เรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะในเคสบางเคสที่เด็กไม่ได้มีปัญหามากก็อาจจะไม่จำเป็นต้องจัดฟันเลย แต่ถ้าลักษณะของฟันมีความผิดปกติมากจนทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องทำการจัดฟัน เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินจากทางทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ

เครื่องมือจัดฟันเด็ก

เครื่องมือจัดฟันเด็กจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

  1. เครื่องมือจัดฟันแบบติดตั้งถาวร 

แบ่งออกได้หลายรูปแบบ เช่น

  • จัดฟันแบบโลหะ จะเป็นการจัดฟันที่หลายคนคุ้นเคยมากที่สุดเพราะเป็นการติดตั้งเครื่องมือไว้ให้เห็นบริเวณผิวหน้าของฟัน แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ แบบใช้ยางรัดและไม่ใช้ยางรัด (O-ring) นอกจากนี้ยังไม่สามารถถอดเครื่องมือออกได้
  • จัดฟันแบบดามอน จะเป็นการจัดฟันที่ติดตั้งเครื่องมือบนผิวหน้าฟันเช่นกัน แต่แบร็คเก็ตจะเป็นสีโลหะล้วนหรือสีใส ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันน้อยกว่าแบบโลหะ เพราะว่าฟันสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า
  • จัดฟันเซรามิก จะเป็นการจัดฟันแบบติดตั้งเครื่องมือแต่ให้สีและความใสใกล้เคียงกับสีฟันมากที่สุด เหมาะกับคนที่ไม่อยากให้เห็นว่ากำลังจัดฟัน หรือมีอาการแพ้เหล็กจัดฟันโลหะ
  1. เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้

จะเป็นวิธีการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่เรียกกันว่า จัดฟันแบบใส ซึ่งสามารถถอดเครื่องมือออกได้ ตัวของเครื่องมือเองก็มีลักษณะเป็นพลาสติกใสที่ออกแบบมาให้เป็นรูปฟันของเด็กๆ เฉพาะบุคคล ข้อดีของการจัดฟันแบบใส คือ ลดปัญหาความเจ็บจากการติดตั้งเครื่องมือถาวร ทำความสะอาดช่องปากได้ง่าย มีหลายชิ้นตลอดการรักษา ใช้เวลาในการจัดฟันน้อย แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละเคสด้วยว่ายากง่ายต่างกันอย่างไร ส่วนค่าใช้จ่ายก็จะแพงกว่าการจัดฟันแบบติดตั้งเครื่องมือ

จัดฟันเด็กได้ตอนไหน

เด็กๆ จะสามารถจัดฟันเด็กได้ตอนไหน ควรมีอายุเท่าไหร่จึงจะสามารถทำการจัดฟันได้ ต้องบอกว่ารูปแบบการจัดฟันของเด็กจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบตามลักษณะของฟัน คือ

  • มีฟันชุดผสม โดยจะเป็นช่วงที่เด็กมีช่วงอายุประมาณ 7-12 ปีที่เด็กจะยังมีฟันผสมกันอยู่ระหว่างฟันแท้และฟันน้ำนม ช่วงนี้ก็สามารถทำการจัดฟันได้เช่นกัน โดยจะมีประโยชน์ในการช่วยวางพื้นที่สำหรับฟันแท้ที่จะขึ้นมาทดแทนต่อไปได้ 
  • มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว โดยจะเป็นช่วงที่เด็กมีช่วงอายุประมาณ 12-13 ปีที่นอกจากจะมีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว ขากรรไกรของเด็กจะเริ่มมีการเจริญเติบโต ทำให้การขยายหรือลดรูปร่างขากรรไกรทำได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่า เหมาะสำหรับการจัดฟันเด็กมากขึ้นด้วย 

ราคาจัดฟันสำหรับเด็ก

จัดฟันเด็ก ราคาถูกหรือแพงจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของการจัดฟันที่เลือกทำ รวมถึงความซับซ้อนของปัญหาฟันที่พบ ยกตัวอย่างเช่น ราคาจัดฟันเด็กแบบใสที่มีความสะดวกสบาย ใช้เวลาทำน้อย อีกทั้งสามารถถอดได้ ราคาเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาทเป็นต้นไป แต่ถ้าเลือกวิธีการจัดฟันเด็กแบบโลหะราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 39,000 – 48,000 บาท 

ก็ต้องให้ทางทันตแพทย์ช่วยประเมินด้วยว่าวิธีการจัดฟันแบบไหนเหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาให้กับลูกน้อยได้ รวมถึงเลือกด้วยว่า ราคาจัดฟันสำหรับเด็กแบบไหนที่คุณพ่อและคุณแม่สะดวกใจที่จะจ่ายมากที่สุด

การเตรียมตัวก่อนการจัดฟันเด็ก

ก่อนทำการจัดฟันเด็กผู้ปกครองควรพูดคุยกับบุตรหลานให้เข้าใจถึงการรักษาด้านทันตกรรมการจัดฟันเสียก่อน เช่น ทำไมต้องทำ, การไปหาหมอฟันไม่ได้น่ากลัวอย่าที่คิด ฯลฯ เพื่อลดความเครียด ความวิตกกังวล ไปจนถึงทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกกลัวไปก่อน แล้วจึงปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไป ดังนี้

  • ทำการเลือกคลินิกที่มีคุณภาพและเข้าพบกับทันตแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการประเมินการรักษา โดยทันตแพทย์จะช่วยให้คำแนะนำและตอบคำถามอย่างละเอียดจนกว่าจะได้ข้อสรุป
  • ทันตแพทย์จะทำการตรวจภายในช่องปากเพื่อหาความผิดปกติ โดยอาจจะทดสอบการกัด พร้อมกับทำการเอกซ์เรย์ฟันเพื่อนำมาวิเคราะห์หาความผิดปกติที่ควรแก้ไขด้วยการจัดฟันเด็ก
  • ทันตแพทย์จะทำการตรวจดูสุขภาพอนามัยของเหงือกและฟัน หากมีปัญหาคราบหินปูน หรือฟันผุก็จะต้องทำการอุดฟัน, ขูดหินปูน และเคลียร์ช่องปากให้สะอาดเรียบร้อยเสียก่อน
  • ทันตแพทย์จะแจ้งขั้นตอนการรักษา ค่าใช้จ่าย วิธีการดำเนินงาน ไปจนถึงแนะนำประเภทการจัดฟันที่เหมาะสมให้
  • ทันตแพทย์จะนัดเวลาการจัดฟันตามประเภทของการจัดฟันที่เลือก พร้อมทำการติดตามผลอย่างละเอียด

ขั้นตอนการจัดฟันของเด็กที่พ่อแม่ต้องรู้

มาถึงขั้นตอนสำคัญของการจัดฟันเด็กที่คุณแม่และคุณพ่อควรรู้ ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. ในกรณีที่ต้องติดตั้งเครื่องมือจัดฟัน เช่น จัดฟันแบบโลหะ จะมีข้อปฏิบัติในขณะจัดฟันดังนี้
    1. หลังจากตัดสินใจว่าจะจัดฟันเด็กแบบโลหะ ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายมาเพื่อติดตั้งเครื่องมือจัดฟัน
    2. ทันตแพทย์จะทำการขัดทำความสะอาดฟันให้สะอาด
    3. ทำการเป่าฟันหลังจากขัดแล้วให้แห้ง
    4. ทำการทากรดกัดฟัน หลังจากนั้นทำการล้างออก
    5. ทำการทากาวสำหรับยึดตัวแบร็คเก็ต แล้วทำการติดแบร็คเก็ตลงไป
    6. ทำการฉายแสงเพื่อให้กาวกับแบร็คเก็ตติดกัน
    7. ทำการใส่ลวดและยางโอริง ส่วนในบางเคสอาจจะมีการติดตั้งเครื่องมือพิเศษอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและแผนในการรักษา
  1. ในกรณีที่จัดฟันแบบใส  จะมีข้อปฏิบัติในขณะจัดฟันดังนี้
    1. หลังจากทำการทดสอบการกลืน ประเมินช่องปาก ไปจนถึงเคลียร์ช่องปากแล้ว ทันตแพทย์จะทำการสแกนฟัน 3 มิติด้วยเครื่องสแกนชนิด iTero
    2. หลังจากนั้นจะทำการวางแผนการเคลื่อนฟันผ่าน ClinCheck
    3. เมื่อทำเสร็จแล้วจะมีการนัดคนไข้เข้ามาดู ClinCheck เพื่อดูการเคลื่อนของฟัน และให้คนไข้ทราบถึงจำนวนชิ้นเครื่องมือ และรูปฟันเมื่อจัดเสร็จ
    4. สุดท้ายจะเป็นขั้นตอนผลิตเครื่องมือ ซึ่งเครื่องมือจะผลิตที่สหรัฐอเมริกา และส่งกลับมายังคลินิก เพื่อทำการจัดฟันให้กับคนไข้ต่อไป

หลังการจัดฟันเด็ก ควรดูแลฟันของเด็กอย่างไร

หลังการจัดฟันเด็กพ่อ แม่ และผู้ปกครองจะต้องทำการดูแลสุขภาพภายในช่องปากของเด็กๆ อย่างละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น…

  • เลือกใช้แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ รวมถึงทำการแปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือแปรงทุกครั้งหลังมื้ออาหารอย่างน้อย 30 นาที
  • ควรใช้แปรงซอกฟันหรือไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดซอกฟันให้สะอาด
  • ช่วงจัดฟันควรงดอาหารที่แข็ง เหนียว เคี้ยวยาก เพราะอาจกระทบกับเครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟันได้ เช่น ทำให้ลวดหลุด เป็นต้น
  • พบทันตแพทย์ตามที่นัดหมายทุกครั้ง และปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
  • ทำการตรวจสุขภาพภายในช่องปากทุกๆ 6 เดือน เพื่อดูแลเรื่องหินปูนหรือฟันผุ

จัดฟันเด็กใส่รีเทนเนอร์ได้ไหม

การจัดฟันเด็กจะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลาเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปี เหมือนกับการจัดฟันในผู้ใหญ่ (ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์) ยกเว้นตอนรับประทานอาหารและแปรงฟัน ทั้งนี้ ก็เพื่อคงสภาพฟันให้อยู่ในตำแหน่งใหม่และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฟันเคลื่อน ฟันล้ม รวมถึงช่วยรักษาอาการผิดปกติของช่องปากได้บางอย่าง ได้แก่ อาการลิ้นยื่นเข้าออกช่องปากตลอดเวลา อาการขากรรไกรผิดปกติ ฯลฯ

จัดฟันเด็กที่ไหนดี

สำหรับคำถามที่ว่าจัดฟันที่ไหนดี จะจัดฟันเด็กกับคลินิกไหนก็ควรที่จะมีเกณฑ์การตัดสินใจและการพิจารณาที่เหมาะสม โดยเรารวบรวมมาให้แล้ว ดังนี้

  • คุณภาพของคลินิก ไม่ว่าจะเป็นความสะอาด ความปลอดภัย การตั้งอยู่ในพื้นที่เดินทางสะดวก เพื่อให้ง่ายต่อการขอเข้ารับคำปรึกษาหรือแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ไปจนถึงความทันสมัยของอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำทันตกรรม ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่และผู้ปกครองควรให้ความสำคัญ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าการรักษาจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
  • ความมีมาตรฐานของคลินิก โดยคลินิกควรที่จะมีเลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลที่ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบได้
  • แพทย์จะต้องมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์เฉพาะทางได้เลยที่  https://thaiortho.org/certified-orthodontist/ (ดูรายชื่อทีมทันตแพทย์เฉพาะทางของ Smile And Co dental clinic )
  • ควรได้รับคำแนะนำและคำปรึกษาก่อนที่จะตกลงเข้ารับการจัดฟันเด็กก่อนอย่างตรงไปตรงมาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ในด้านราคาการจัดฟันเด็กก็ควรที่จะมีราคาที่สมเหตุสมผล มีการชี้แจงค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด อย่างเช่นที่  Smile And Co dental clinic ของเราก็มีราคาผ่อนชำระที่สามารถทำการแบ่งจ่ายได้ 

จัดฟันเด็กเจ็บไหม

หากเป็นการจัดฟันเด็กครั้งแรก อาจจะทำให้ลูกๆ รู้สึกเจ็บหรือตึงได้จากการจัดฟันแบบติดตั้งเครื่องมือ ส่วนใครที่ทำการจัดฟันแบบใสจะทำให้จะรู้สึกระคายเคืองในช่วง 2-3 วันแรกเท่านั้น และอาจจะรู้สึกตึงบ้างจากการเคลื่อนตัวของฟัน แต่โดยรวมไม่ได้เจ็บจนทนไม่ไหว นอกจากนี้ หากมีอาการปวดมากๆ ทางทันตแพทย์ก็จะมีการจ่ายยาแก้ปวดให้อยู่แล้วด้วย รวมถึงมีการนัดตรวจเพิ่มเติม จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการทำทันตกรรมที่ถูกวิธีและปลอดภัยอย่างแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Line chat facebook chat call to clinic

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า