อยากจัดฟัน
อยากจัดฟันจำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ? มีงบเท่าไหร่ถึงจัดฟันได้ ? ไปดูกันชัด ๆ
แต่ก่อนที่จะตัดสินใจจัดฟัน อันดับแรก และสำคัญที่สุด คือ ต้องทราบก่อนว่าทำไมถึงอยากจัดฟัน ทั้ง นี้แผนการรักษาจะแตกต่างกันออกไป
ซึ่งองค์ประกอบใหญ่ก็คือ ความต้องการของคนไข้เอง ตัวอย่างเช่น คนไข้ที่มีฟันล่างคร่อมฟันบนและคางยื่น เพียงเล็กน้อย ต้องการแก้คาง ก็อาจจะต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด ในทางกลับกันหากต้องการแก้เพียงฟันล่างคร่อมบนก็อาจจะจัดฟันอย่างเดียวได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอด้วยนะคะ)
คนไข้สามารถดูรูปแบบการจัดฟันต่าง ๆ ได้ที่นี่ : 4 วิธีการจัดฟัน พร้อมข้อมูลการจัดฟัน
แล้วใครบ้างที่จำเป็นต้องจัดฟัน ? ลักษณะฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน ? หลากหลายเหตุผลที่เราตัดสินใจที่จะจัดฟัน ซึ่งเหตุผลต่าง ๆ ก็ตามแต่ละบุคคล นี่คือตัวอย่างสภาพฟันและเหตุผลในการจัดฟัน
- ฟันบนยื่นออกมาข้างหน้ามากเกินไป ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับบุคลิก และอาจทำให้เกิดอุบัติหกล้มฟันหักได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็ก ๆ
- ฟันล่างคร่อมบน (Anterior Crossbite) คือลักษณะของฟันหน้าล่าง ที่อยู่หน้าต่อฟันหน้าบน มักมีความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขา กรรไกรร่วมด้วย หรือเกิดจากความผิดปกติในส่วนของฟันเพียง อย่างเดียว
- ฟันสบเปิด (Open bite) คือ ฟันบน ฟันล่างไม่สบกัน สามารถเกิดได้ ทั้งบริเวณฟันหน้า และฟันด้านใน
- ฟันกัดเบี้ยว (Asymmetry) คือ กึ่งกลางฟันบนและฟันล่างไม่ตรง กัน ทั้งนี้อาจเกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขากรรไกร ที่ทำให้เกิดความไม่สมมาตร หรืออาจเกิดจากส่วนของฟันที่ไม่ตรง กัน
- ฟันห่าง คือ ฟันบนหรือ ฟันล่างไม่ชิดกัน มีช่องว่างระหว่างฟัน ส่ง ผลต่อความสวยงาม
- ฟันซ้อน คือ ฟันที่ขึ้นเบียดกัน ไม่เรียงเป็นระเบียบ มักเกิดจากความ ไม่สมดุลของขนาดขากรรไกรกับขนาดตัวฟัน
- ฟันสบลึก คือ ฟันบนคร่อมฟันล่างค่อนข้างเยอะ เมื่อยิ้มมองแทบไม่ เห็นฟันล่าง หรือเห็นแต่น้อย ลักษณะนี้มักส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อ ปริทันต์ในฟันบนจากการกัดกระแทกของฟันล่างได้
หากใครมีปัญหาใน 7 ข้อนี้ แนะนำว่าควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาหรือจัดฟัน หากยังไม่พร้อมที่จะจัดฟัน ก็ขอคำปรึกษาคุณ หมอก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อจะทำให้เราทราบถึงผลที่จะเกิดขึ้น ถ้าทำการจัด ฟัน หรือไม่จัดฟัน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
อยากจัดฟันต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง
หากเรามีความต้องที่จะจัดฟันแล้ว อันดับต่อไปก็คือการเลือกคลินิกที่ให้บริการจัดฟัน ณ ปัจจุบัน คลินิกทันตกรรมมีหลายที่ให้เลือก แล้วเราจะเลือกสถานที่ไหนดี ? สิ่งสำคัญคือ เลือกคลินิกที่ให้บริการโดยทันตแพทย์ เฉพาะทางจัดฟัน
ทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน คือทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาทางด้านทันตกรรมจัดฟัน (Orthodontist) เป็นทันตแพทย์ที่ได้รับการศึกษาต่อเฉพาะทางจัดฟัน จากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันที่มีหลักสูตรอย่างน้อย 2 ปี และได้รับการรับรองจาก ก.พ.ผู้เป็นทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน จะมีรายชื่ออยู่ในสมาชิกสมาคมทันตแพทย์จัดฟัน ที่มีมาตรฐานที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง ภายใต้มาตรฐานเดียวกันในต่างประเทศและประเทศไทย ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อคุณหมอจัดฟันทั่วประเทศไทยได้ทาง www.thaiortho.org/certified-orthodontist หรือทาง Line: @thaiortho หรือทาง www.royalthaident.com
เมื่อเลือกคลินิกจัดฟันได้แล้ว ขั้นต่อไปคือนัดวันเข้าไปปรึกษาก่อน
ในวันนั้นคุณหมอจะมีการตรวจโครงสร้างใบหน้า กระดูกขากรรไกร พิมพ์ฟัน x- ray และถ่ายรูป เพื่อประกอบการวางแผนการรักษา
หลังจากนั้นคุณหมอจะแนะนำให้เคลียร์ช่องปาก ก่อนจัดฟัน
จริง ๆ แล้ว การจัดฟันเราจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนะว่า สภาพฟันและช่องปากของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และแต่ละคนก็มีปัญหาที่ต่างกัน บางคนฟันคุด บาง คนฟันผุ บางคนมีหินปูน ซึ่งปัญหาต่าง ๆเหล่านี้มีผลต่อการจัดฟันโดยตรง ดังนั้นการตรวจฟันตรวจหาปัญหาในช่องปาก และแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ให้เรียบร้อยก่อน จะทำให้การจัดฟันง่ายและได้ผลดีกว่า
และอีกเหตุผลคือ การจัดฟันต้องใช้ระยะเวลานาน หากไม่แก้ปัญหาอื่น ในช่องปากก่อน อาจจะลุกลามและส่งผลกระทบต่อการจัดฟันในอนาคต ก็เป็นได้ ทำให้เสียเงินเสียเวลาต้องมาทำใหม่ ดังนั้น แก้ปัญหาตั้งแต่ต้น เลยจะดีกว่า
เมื่อเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือคุณต้องเตรียมความพร้อมด้านการเงินด้วยนะคะ เพราะการจัดฟัน คุณต้องเตรียม เงินค่ารักษาเริ่มต้นและค่ารักษาต่อเนื่องกันแบบยาว ๆ เพราะคุณจะต้องมาพบคุณหมอทุกเดือนเป็นเวลาอย่างน้อยก็ 2 ปี หรือบางคนอาจจะต้อง ใช้เวลานานกว่านั้น
วันแรกที่คุณตัดสินใจจัดฟันและเข้าตรวจสภาพฟัน เพื่อเคลียร์ช่องปาก หรือเป็นการจัดฟันครั้งแรก ควรเตรียมเงินมาอย่างน้อย 3,000-5,000 บาท ส่วน ค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง คุณหมอจะแจ้งรายละเอียดให้คุณทราบหลังจากทำการวางแผนการรักษาแล้ว เพราะราคาส่วนหนึ่งก็มาจากแผนการรักษาและ เครื่องมือจัดฟันที่คุณเลือก
อยากจัดฟันแต่งบน้อย เราช่วยได้
อยากจัดฟันแต่มีงบน้อย เราช่วยคุณได้นะ เพราะปัจจุบันนี้มีการจัดฟันสามารถแบ่งชำระเป็นงวด ๆได้ ทำให้สะดวกกับคนที่ไม่มีเงินก้อน สามารถ แบ่งจ่ายผ่อนรายเดือนได้ คนงบน้อยไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วนะคะ
รูปแบบการจัดฟันราคาผ่อน คือ การแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ขึ้นอยู่ว่าจะเลือก วิธีการจัดฟันแบบไหน มีโปรโมชันอะไร โดยงวดแรกจะมีค่าใช้จ่าย คือ ค่าพิมพ์ฟัน ค่าเอ็กซเรย์ฟัน ค่ารักษาฟันให้แข็งแรง หรือคนทั่วไปเรียกว่า ค่าเคลียร์ช่องปากก่อนการจัดฟัน อยู่ราว ๆ 1,000-10,000 บาท (แล้วแต่ สภาพช่องปากของแต่ละบุคคล) ที่เหลือก็จะเป็นค่าเครื่องจัดฟัน ราคาเท่าไหร่ อยู่ที่การเลือกรูปแบบการรักษาของคนไข้เอง แล้วคุณหมอก็จะคำนวณค่าใช้จ่ายโดยให้คนไข้ผ่อนชำระเป็นงวด ๆ หรือผ่อนชำระรายเดือน นั่นเอง
ดังนั้นเมื่อรู้ค่าใช้จ่ายแล้ว คุณต้องวางแผนค่าใช้จ่ายรวมค่าจัดฟันในแต่ละเดือนร่วมด้วยนะคะ จะได้ไม่มีปัญหาในการรักษา สามารถรักษาอย่าง ต่อเนื่องได้
รวมวิธีคนอยากจัดฟันแต่งบน้อยต้องทำยังไง
หลายคนลืมนึกไปว่า การจัดฟันนอกจากค่าใช้จ่ายหลัก คือค่าเคลียร์ช่อง ปากและค่าเครื่องจัดฟันแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งรวม ๆแล้วกว่าฟันจะเข้าที่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้สูงพอสมควร เราไปดูว่ามีค่าใช้จ่ายอะไร บ้างที่คุณยังไม่รู้ แล้วเราจะสามารถประหยัดได้อย่างไรบ้าง
- ค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา หลายคนลืมบวกไปกับค่าใช่จ่ายใช่ไหมละคะ เพราะอย่าลืมนะคะว่าเราต้องเดินทางไปพบคุณหมอทุกเดือน บางคนต้องเดินทางไกลและใช้เวลานานเพราะเลือกคลินิกที่คิดว่าถูก ถึงจะไกลหน่อยแต่ก็ยอม หากคำนวณดี ๆบางทีค่าใช้จ่ายในการ เดินทางรวมกับค่าจัดฟันแล้วอาจจะมากกว่าคลินิกใกล้แต่ราคาจัด ฟันสูงในตอนแรกก็ได้นะคะ ลองคิดคำนวณกันให้ดีก่อนตัดสินใจ แนะนำว่าควรเลือกคลินิกที่ใกล้ เดินทางสะดวกจะดีกว่าค่ะ เพราะบาง ทีค่าเสียเวลาก็อาจจะมากว่าเงินที่เราจ่ายไปก็ได้
- เลือกคุณหมอที่ชำนาญ ลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน ลดค่าเสียเวลาได้ด้วย
บางคนคิดว่าจัดฟันครบกำหนด ถอดเครื่องจัดฟัน ฟันก็จะเรียงตัว สวยเข้าที่ได้เลย หากลองค้นหาข้อมูลดูจะพบว่ามีหลายคนต้องกลับ มาจัดใหม่ เพราะเกิดปัญหาต่าง ๆนานาทีเกิดจากหมอที่ไม่มีความ ชำนาญ ทำให้ต้องเสียเงินเพิ่ม แก้ไปจ่ายไปเรื่อย ๆ เสียเวลายืดยาว ออกไปอีก ที่สำคัญเสียอารมณ์เสียความรู้สึกนี่สิ เอาเป็นว่าเลือกหมอ ที่มีความชำนาญทำทีเดียวให้จบไปเลยจะได้ไม่เสียเงินซ้ำซ้อนอีก
- งัดสวัสดิการ หรือประกันต่าง ๆออกมาใช้ ทั้งประกันสุขภาพ ประกันสังคมสามารถเบิกได้ในช่วงเคลียร์ปัญหาช่องปาก เช่น ขุด หินปูน อุดฟัน ถอนฟัน สะดวกไม่ต้องสำรองจ่าย มีประกัน มี สวัสดิการก็รู้จักใช้ให้คุ้มนะคะ
- เลือกคลินิกที่บริการประทับใจตั้งแต่แรก เพราะเราก็รู้กันดีอยู่แล้ว การจัดฟันจะต้องเข้ามาพบหมอตลอดระยะเวลา 2-4 ปี หากไม่ ประทับใจต้องการย้าย เราก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการย้ายเพิ่มเข้า ไปอีก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาควรเลือกคลินิกที่คุณชอบ ถูกจริตตั้งแต่ ต้นนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายในการย้ายเพิ่มอีก
เป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆแต่ช่วยเราประหยัดได้เยอะเลยที่เดียว หากใคร กำลังจะตัดสินใจจัดฟันก็ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดู
ดูแลฟันอย่างไรในช่วงจัดฟันให้สุขภาพดี
นอกจาการเตรียมตัวก่อนการจัดฟันแล้ว การดูแลฟันช่วงการจัดฟันให้มี สุขภาพดีก็สำคัญอย่างมาก เรามาดูวิธีการดูแลฟัน เพื่อให้เรียงตัวสวยสุข ภาพดีกันค่ะ
- การแปรงฟัน การที่เราต้องใส่เครื่องจัดฟันแน่นอนว่าการแปรงฟัน จะต้องยุ่งยากขึ้น เราจึงควรใช้เวลาการแปรงฟันให้นานขึ้น และ แปรงทุกครั้งหลังทานอาหาร วิธีการแปรง ควรวางขนแปรงบนให้ ขยับและหมุนรอบๆเหล็กจัดฟันด้วย เพื่อทำความสะอาดเครื่องจัดฟัน ป้องกันการติดค้างของเศษอาหาร
- ใช้ไหมขัดฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ เพราะการแปรงฟันเพียง อย่างเดียวอาจจะไม่สะอาด ไม่ทั่วถึง ทำให้มีเศษอาหารตกค้างตาม ซอกฟัน หลังการแปรงฟันควรใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อขจัดคราบพลัคใต้ลวดดัดฟันและร่องเหงือกระหว่างฟันแต่ละซี่
- แปรงซอกฟัน ใช้เพื่อทำความสะอาดบริเวณเครื่องมือจัดฟัน ใต้ลวด. จะช่วยให้ด้านข้างฟันสะอาดยิ่งขึ้น
- หมั่นตรวจสุขภาพช่องปากทุก ๆ 6 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงและ ความซับซ้อนของการดูแลรักษา
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อมือใหม่ที่พึ่งเริ่มจัดฟันนะคะ
จัดฟันที่ SMILE & CO. เน้นผลลัพธ์ของการรักษา และการให้บริการ ทีนี่เราให้บริการโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง. และวัสดุ premium จากอเมริกา ในมาตรฐานโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ !